Frequently Asked Question(s)

นวัตกรรมไม้เทียม WPC” สวยแบบไม้จริง
ทนแดด ทนฝน ปลวกไม่กิน ไม่ต้องทำสี
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

วิธีเลือกสินค้า

Frequently Asked Question(s)

ไม้เทียม WPC (Wood Plastic Composite)
มีส่วนผสม อะไรบ้าง

  1. ผงไม้แข็ง 60%
  2. พลาสติก PE 32%
  3. สารเติมแต่ง 8%

ไม้เทียม WPC (Wood Plastic Composite)
มีการรับประกันหรือไม่

ไม้เทียม WCP ของบริษัทฯ มีการรับประกันอายุการใช้งาน 10 ปี กรณี แตก หัก โก่ง งอ ที่เกิดจากตัววัสดุเอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัท

ไม้เทียมมีวิธีการทำความสะอาด
และบำรุงรักษาอย่างไร

  1. ใช้น้ำยาทำความสะอาดไม้แบบอ่อน ไม่แนะนำให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่มีฤทธิ์การกัดกร่อนที่รุนแรง
  2. ควรทำการเช็ดพื้นไม้สังเคราะห์ให้แห้งทันทีหลังทำความสะอาด เพื่อไม่ให้มีความชื้นและเป็นคราบ
  3. หากไม้เกิดคราบ เช่น คราบอาหาร เครื่องดื่ม และคราบดินโครน สามารถใช้น้ำจากสายยางฉีดอัด ไม่แนะนำให้ขัดหรือถูรุนแรงเพราะจะทำให้เกิดรอยบนไม้
  4. การเคลื่อนย้ายโต๊ะ เก้าอี้ หรืออุปกรณ์หนักๆ โดยวิธีลาก ควรรองหรือหุ้มด้วยซิลิโคนยาง หรือสักหลาด เพื่อลดความคม และลดแรงเสียดทาน จะช่วยรักษาพื้นไม้ไม่ให้เกิดรอย
  5. การปูพรมหรือเสื่อน้ำมัน ตรงบริเวณที่มีการลากเก้าอี้บ่อยๆ หรือที่มีสัตว์เลี้ยง ก็จะช่วยลดรอยขีดข่วนได้เช่นกัน

ไม้เทียม WPC (Wood Plastic Composite)
มีคุณสมบัติอะไรบ้าง

ทนแดด ทนฝน ปลวกไม่กิน ไม่ต้องทำสี เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ผุ ผิวสัมผัสเหมือนไม้จริง ติดตั้งสะดวก

เมื่อใช้งานไปจะมีปัญหา
เรื่องสีซีดหรือจางไหม

เมื่อมีการติดตั้ง การใช้งานไม้เทียม WPC (Wood Plastic Composite) ในระยะเวลานึงแล้วสีของไม้เทียม จะสีซีดหรือจางประมาณ 5-10% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานและสภาพแวดล้อม

โครงรับของการติดตั้งพื้นไม้เทียม
ควรห่างประมาณเท่าใด

โครงรับของการติดตั้งพื้นไม้เทียม ควรมีระยะห่างประมาณ 30cm.

วิธีการยึดโครงไม้ระแนงและ
ความห่างต่อเส้น

การยึดโครงไม้ระแนงและความห่างประมาณ 40-50 cm.

ต้องเตรียมพื้นอย่างไร
ก่อนติดตั้งไม้เทียม

พื้นที่ในการติดตั้งไม้เทียมควรเทปูนให้ระดับพื้นเสมอกัน

อายุการใช้งาน
ของไม้เทียมมีกี่ปี

10-15 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งานและสภาพแวดล้อม

สามารถทาสี
บนไม้ได้ไหม

ได้ค่ะ แต่ไม่แนะนำเนื่องจากตัวไม้มีการผสมสีอยู่แล้ว ถ้าทาสีบนไม้อาจจะทำให้สีที่ทามีการลอกร่อนได้

เงื่อนไขในการ
รับประกันสินค้า

10 ปี แตก หัก โก่ง งอ ที่เกิดจากตัววัสดุเอง และติดตั้งตามมาตรฐานของบริษัท

การรับประกัน ระยะเวลาการรับประกันสินค้า

1.การรับประกันวัสดุในกรณีปกติจะรับประกันงานเป็นเวลา 10 หลังจากวันส่งมอบสินค้า/มอบงานติดตั้ง

2.ภายในระยะเวลาการรับประกันนั้น จะครอบคลุมถึงกรณีต่อไปนี้

  • การป้องกันและแมลงกัดกิน
  • การแตกหัก หรือการแยกออจากกันของวัสดุ การผุกร่อนของวัสดุหรือความบกพร่องจากขบวนการผลิต
  • การหดตัวน้อยกว่า 0.4%
  • การทนต่อสภาวะอากาศทั่วไป
  • ตำหนิของการดำเนินการของบริษัท

รายละเอียดเพิ่มเติม

ซึ่งไม่ครอบคลุมถึง ภัยพิบัติตามธรรมชาติ น้ำท่วมขัง อาคารสร้างไม่ถูกต้องตามหลักวิศกรรม หรือผิดกฏหมายก่อสร้าง การทรุดตัวของอาคาร และความเสียหายที่มาจากส่วนใดส่วนหนึ่งของอาคาร และไม่ครอบคลุมกรณีติดตั้ง ยื่นลงไปในน้ำ หรือลงไปในน้ำ หรือพื้นที่ที่มีน้ำขัง การระบายน้ำที่ไม่ดี  น้ำรั่วจากหน้าต่างหรือห้องน้ำ ไม่ครอบคลุมการใช้งานที่ผิดปกติเช่น  การนำเตาความร้อนวางบนพื้นไม้ การตกกระแทกจากของแข็ง/อุปกรณ์/เครื่องมือช่าง การนำรถมอเตอร์ไซต์ รถยนต์เข็นหรือขับขี่ผ่านพื้นไม้ หรือสิ่งของมีน้ำหนักสูงกดลงบนพื้นไม้เพียงจุดใดจุดหนึ่ง

3.ข้อยกเว้นในการรับประกัน ภายในระยะเวลาการับประกัน

  • ไม่รับประกันสินค้าที่ไม่ได้ติดตั้งภายใต้มาตราฐานที่บริษัทกำหนด รวมถึงการกองเก็บ การดูแลรักษาที่ไม่ถูกวิธี
  • การใช้สินค้าผิดวัตถุประสงค์ การไม่ได้รับคำแนะนำโดยลายลักษณ์อักษรจากทางบริษัทฯ
  • คราบจากสารแปลกปลอม เช่นละอองสารเคมี ยางไม้ เชื้อรา คราบฝังลึกจากน้ำท่ามขัง ครบอาหาร เป็นต้น
  • การเปลี่ยนแปลงของสี หากมีการซื้อสินค้าจากเวลาที่แตกต่างกันออกไป

4.การรับประกัน จะครอบคลุมกรณีการสั่งซื้อที่ได้รับการชำระสินค้า และ/หรือ บริการครบถ้วนตามเงื่อนไขในใบเสนอราคา ราคาเท่านั้น และไม่สามารถโอรนไปบุคคลหรือบริษัทอื่นได้และขอสงวนสิทธิ์ยกเว้นการรับประกันสินค้าหากผู้ซื้อไม่นำใบจัดส่งสินค้าหรือใบเสร็จรับเงินมาแสดง

5.การรับประกันนั้น จะไม่ครอบคลุมถึงความสูญเสียหรือเสียหายจากบุคคลที่3

6.การรับประกันนั้น ทางบริษัทจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการติดต่อประสานงาน ค่าใช้จ่ายสำหรับเอกสารใน ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการขนส่ง รื้อถอน และติดตั้งใหม่

7.หลังจากได้รับการแจ้งความบกพร่องของสินค้า ทางบริษัทฯจะดำเนินการนำส่งสินค้าชิ้นดังกล่าว ตามขนาดและสีที่ใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด อ้างอิงตามตารางมูลค่าความรับผิดชอบของตัวสินค้า